คำศัพท์
|
สูตรคำนวณ
|
คำอธิบายเพิ่มเติม
|
ทรัพย์สิน |
|
--
จำนวนหุ้น คูณ ราคาปิด
|
จำนวนเงินฝากคงเหลือ ในบัญชีเครดิตบาลานซ์
LMV = Long Market Value มูลค่าตลาดปัจจุบัน ของหุ้นทั้งหมดในบัญชี |
หนี้สิน |
Loan Limit |
--
|
วงเงินกู้ที่อนุมัติ |
Equity
|
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ |
Cash + LMV - Loan
|
คำนวณจากยอดเงินที่ฝากไว้ รวมกับ มูลค่าหุ้นปัจจุบันในบัญชี
หัก จำนวนที่กู้ยืมจากบริษัท |
Initial Margin (IM) |
|
อัตราส่วนการกู้ยืมของแต่ละหลักทรัพย์ อัตรายิ่งสูง ยอดเงินกู้จะน้อยลง |
Margin Require (MR) มูลค่าหลักประกันที่ต้องดำรงไว้ |
No.of share x closing price x Margin ratio
|
คือ หลักประกันในการกู้ยืมของผู้ให้กู้ คำนวณจากมูลค่าหุ้น
คูณ ด้วย อัตรา Initial Margin ของหุ้น |
Excess Equity (EE)
ทรัพย์สินส่วนเกิน |
Equity – MR
|
ส่วนต่างระหว่าง Equity (ทรัพย์สินสุทธิ) หัก MR
(มูลค่าหลักประกันที่ต้องดำรงไว้) ซึ่งผลดังกล่าว เป็นส่วนที่
ไม่มีภาระผูกพัน กับผู้ให้กู้ |
Purchasing Power (PP) วงเงินซื้อ |
EE/IM
|
วงเงินซื้อจะเปลี่ยนแปลงเมื่อซื้อหุ้นที่มี IM (อัตรากู้ยืม) ต่างกัน เช่น
กรณีซื้อหุ้นที่มีอัตรากู้ยืม 70% คือ ลูกค้าจะซื้อหุ้นได้จำนวนน้อยลง |
Margin Maintenance (MM) เปอร์เซ็นต์ของทุนต่อทรัพย์สิน |
Equity / Asset x 100
|
ใช้ประเมินมูลค่าทรัพย์สิน เช่น หากต่ำกว่า 35% จะมีการเรียกเก็บเงินเพิ่ม
หรือ หากต่ำกว่า 25% จะมีการบังคับขาย |
Call Margin (Call)
ยอดเงินเรียกหลักประกันเพิ่ม |
Equity - (LMV x 0.35)
|
จะเกิดขึ้นเมื่อมีการลดลง ของมูลค่าหลักประกัน จนถึงระดับที่ทำให้
ทรัพย์สินสุทธิต่ำกว่า มูลค่าหลักประกันที่ต้องดำรงไว้ นั่นก็คือ
เมื่อใดที่ Equity ต่ำกว่าMargin Required แล้ว ก็จะมีการวาง
หลักประกันเพิ่มเท่ากับส่วนที่ต่ำกว่านั้น |
Force sell (Force) |
Equity - (LMV x 0.25)
|
หากหุ้นมีราคาที่ลดลงเรื่อยๆ และไม่มีการเพิ่มหลักประกัน จนกระทั่ง
ทรัพย์สินสุทธิต่ำกว่า มูลค่าหลักประกันขั้นต่ำแล้ว บริษัทผู้ให้กู้
ก็มีสิทธิบังคับชำระหนี้ได้โดยการขายหุ้นในบัญชี และนำค่าขายนั้น
มาชำระหนี้ซึ่งสามารถขายได้จนกระทั่งมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ
เท่ากับ มูลค่าหลักประกันที่ต้องดำรงไว้ |
|